ชื่อเสียงโด่งดังก้องฟ้า ! แต่ชีวิตช่างน่าสงสาร😭

(2793) ชื่อเสียงโด่งดังก้องฟ้า ! แต่ชีวิตช่างน่าสงสาร😭

ม.ค [เพลง] น่า เศร้าทั้งประเทศเมื่อสุดยอดนักร้องดังคน นี้เสียชีวิตในวัยเพียง 31 ปี เมื่อถึงนักร้องลูกทุ่งชื่อดังชื่อผู้พวง ดวงจันทร์ยอมพูดขึ้นมาเป็นอันดับต้นๆ คล้ายเป็นคำผิดปากว่าสายัณห์ยอดรัก พุ่มพวงซึ่งถึงวันนี้สุดยอดนักร้องทั้ง สามท่านนี้ล้วนจากไปกลายเป็นตำนานเพียง แต่การลาลับดับสิ้นลมของผู้พวงดวงจันทร์ นั้นเกิดขึ้นไวๆสำหรับแฟนเพลงและญาติมิตร เธอจากไปในวัยเพียง 31 ปีเท่านั้นผลงาน เพลงความโดดเด่นของนักร้องระดับตำนานท่าน นี้ที่ทุกวันนี้นักร้องรุ่นหลังยังคง เรียกไม่พึ่งและยกเป็นต้นแบบนั้นผู้ที่ บรรยายสรรพคุณได้ดีคือครูลพบุรีรัตน์ครู

เพลงคู่บุญที่แต่งเพลงดังมากมายให้พวงดวง จันทร์ขับร้องท่านเขียนไว้ว่าหากจะเรียก ผู้พวงดวงจันทร์ว่านางพญาลูกทุ่งคงไม่มี ใครค้านแน่นอนใช่เลยความเก่งกาจในการใช้ เสียงองค์ประกอบแทนเพลงความสามารถในการ ยืมย่างที่มีท่วงท่าสง่างามดั่งนางพญาการ พูดคุยที่เป็นกันเองกับแฟนเพลงใสซื่อๆแบบ ลูกทุ่งบวกเล่นที่ขำๆของวัยรุ่นสมัยใหม่ ซึ่งเสียงพูดของเธอมีมนต์เสน่ห์ไม่แพ้ เสียงร้องเลยท่าทางที่ประทับใจแฟนเพลงมาก คือการเส้นที่เป็นธรรมชาติไม่มากไม่น้อย ทุกท่วงท่าติดตาเป็นลีลาที่ขยายอารมณ์ เพลงให้กระจ่างขึ้นรู้เรื่องมากขึ้นทำให้ บทเพลงที่เธอร้องเด่นทุกเพลงนักแต่งเพลง

ที่ได้ร่วมงานกับพุ่มพวงดวงจันทร์ยืนยัน ได้ทุกคนทึ่งมากๆกับความเป็นอัจฉริยะทั้ง หมดในตัวเธอผมในฐานะคนหนึ่งที่เธอให้ เกียรติเรียกว่าครูรู้สึกภูมิใจในสิ่งคน นี้อย่างมากยิ่งนานวันยิ่งรู้สึกว่าคุณ ค่าในการเป็นนักร้องนักแสดงของเธอยิ่ง ใหญ่กว่าที่คิดเพราะจนป่านนี้ยังหาเงาตัว จริงของเธอไม่เจอเลยพยานหลักฐานยืนยันใน ความยิ่งใหญ่ของตัวเธอคือแฟนเพลงที่ยัง รักเธอคิดถึงเธอไม่เสื่อมคลายทั้งๆที่เธอ ไม่อยู่แล้วฮือฮือพุ่มพวงดวงจันทร์อยู่ก็ ทำแต่คุณประโยชน์ให้สังคมช่วยให้คนมีกิน มีใช้ตายก็ยังเป็นแม่แบบให้นักร้องรุ่น หลังทำมาหากินให้ครูเพลงทุกคนที่ร่วมทำ

งานได้มีหน้ามีตาสู่สวรรค์ชั้นสูงสุดเถอะ นางพญาลูกทุ่งศิษย์รักของครูเพลงทุกคนที่ ร่วมงานลงชื่อลพบุรีรัตน์ถ้อยคำเหล่านี้ ครูลพบุรีรัตน์เขียนไว้เมื่อหลายปีก่อน และในวันนี้ท่านก็ได้จากไปแล้วเช่นกันแต่ ว่าความหมายของถ้อยคำก็ยังที่ศูนย์ได้ ด้วยกาลเวลาว่าถึงทุกวันนี้พุ่มพวงดวง จันทร์ยังคงเป็นนักร้องระดับตำนานที่ยัง คงประทับอยู่กลางใจของแฟนเพลงอาจารย์ สัมพันธ์พัทลุงได้เรียบเรียงประวัติเช่น ทางชีวิตของพุ่มพวงไว้ดังนี้พุ่มพวงดวง จันทร์มีชื่อจริงตามบัตรประชาชนว่ารำพึง จิตรหาญชื่อเล่นว่าพึ่งเกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมปี 2504 ที่อำเภอหันคาจังหวัด

ชัยนาทครอบครัวของผึ้งย้ายไปอยู่สถานที่ ต่างๆหลายที่ที่สุดท้ายคือบ้านดอนตำลึง หมู่ 4 ตำบลบอร์ดมีอำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรีบิดาชื่อนายสำราญจิตต์ ฐานมันด่าชื่อนางจรัลที่ฐานมีพี่น้องด้วย กันทั้งหมด 12 คนเป็นชาย 5 คนหญิง 7 คน การศึกษาของผู้พวงจันเธอจบการศึกษาชั้นป 2 จากโรงเรียนบ้านดอนตำลึงครอบครัวมีอาชีพ ทำไร่อ้อยในวัยเด็กเธอเคยร่วมกับพี่ชาย เดินสายรบกวนร้องเพลงคว้ารางวัลชนะเลิศ เป็นว่าเล่นโดยที่ชายคนที่สามใช้ชื่อใน การประกวดว่าอำนาจนะไร่อ้อยส่วนตัวเธอ ชื่อว่าน้ำผึ้งณไร่อ้อยบ้างมาลัยณไร่อ้อย บ้างทั่วทั้งสุพรรณและจังหวัดใกล้เคียง

เธอผ่านการประกวดและชนะเลิศมาแล้วทั้ง นั้นส่วนมากจะใช้เพลงของผ่องศรีว่ารถเป็น หลักในการประกวดร้องเพลงแต่บางครั้งก็ใช้ เพลงของบุปผาสายชลบ้างขวัญจิตศรีประจันต์ บ้างเมื่ออายุได้ 11 ปีอำนาจนะไร่อ้อยพี่ ชายของเธอมีโอกาสได้เข้าเสี่ยงดวงที่ กรุงเทพฯและในเขาอยู่กับนนท์ตรีดวงอนุชา ต่อมาที่ชายก็จะชวนเธอไปอยู่ด้วยทั้งเธอ และพี่ชายเดินสายอยู่กับวงได้ไม่กี่เดือน ก็เข้าสู่ช่วงหน้ามีงานก็ไม่ค่อยมีมีอยู่ ครั้งหนึ่งพ่อแม่ของเธอติดต่อวงดวงอนุชา ไปทำการแสดงที่บ้านแต่ว่าดวงอนุชารับปาก แล้วก็ไม่ไปทำการแสดงทำให้ทั้งสองคนเสีย ใจมากพ่อแม่ก็ไม่พอใจจึงมารับทั้งสองกลับ

บ้านกลับไปทำไร่อ้อยเช่นเดิมดวงการเป็น นักร้องของเธอเริ่มเปล่งรัศมีอีกครั้ง เมื่อวันหนึ่งกูดนตรีไวพจน์เพชรสุพรรณไป ทำการแสดงในงานประจำปีของวัดทับกระดาน จังหวัดสุพรรณบุรีคุณพ่อสำราญรู้ถึงความ ปรารถนาอันแรงกล้าของผู้สาวก็พารำพึงไป ฝากไว้กับหัวหน้าวงไวพจน์โดยให้เธอร้อง เพลงโชว์เสียงให้ฟังจากน้ำเสียงที่หวาน ไพเราะทำให้ไวพจน์มองเห็นแววจึงรับ อุปการะในฐานะบุตรบุญธรรมตั้งแต่นั้นมา และไม่นานก็แต่งเพลงให้เธอบันทึกเสียง ชื่อเพลงว่าแก้วรอพี่โดยตั้งชื่อนักร้อง ให้เธอว่านำผึ้งเมืองสุพรรณเป็นชีวิตของ น้ำผึ้งต้องหักเหยีครั้งเมื่อได้รู้จัก

กับนักดนตรีหนุ่มของวงคนหนึ่งชื่อว่า ธีระพลแสนสุขทั้งคู่เกิดชอบพอมีความ สัมพันธ์ลึกซึ้งถึงขั้นมีติดต่อกันจึง เป็นเหตุให้ต้องออกจากวงดนตรีไวพจน์เพชร สุพรรณไปในโชคกันเองในเวลานั้นเธอมอบ ชีวิตให้ธีรพลฉันสุขเป็นผู้นำไปไหนก็ไป กันชีวิตคู่ที่กำลังหกระเหินเกิดโชคดี เมื่อได้เข้าไปอยู่กับมนตรีศรเพชรศร สุพรรณได้ร้องเพลงหน้าเวทีบ้างเส้นทาง เครื่องบ้านพอมีรายได้ประทังชีวิตแต่อยู่ ได้ไม่นานก็ออกจากวงดนตรีศรเพชรศรสุพรรณ ที่รพลก็พาเธอไปเช่าห้องอยู่ในซอยวัด ดงมูลเหล็กในช่วงนี้ชีวิตค่อนข้างลำบาก บางวันได้กินทั้ง 3 มื้อบางวันที่กิน

เพียง 2 มื้อบางวันก็ทองแท่งวันไหนที่ธีร พลรับงานไปเล่นดนตรีกับวงต่างๆเธอก็ต้อง อยู่ห้องคนเดียวแต่ชีวิตของคนเราย่อมมี วันตรงกับและรุ่งโรจน์เป็นของธรรมดาน้ำ ผึ้งเมืองสุพรรณก็เช่นกันชีวิตที่กำลัง ลำบากอยู่ๆก็มองเห็นความรุ่งโรจน์ในปี 2519 ค่ะหน้าที่ขวัญชัยเพชรร้อยเอ็ด กำลังโด่งดังในเพลงจดหมายเป็นหมันรัก อันตรายธีรพลได้พาเธอไปพบกับอาจารย์มนต์ เมืองเหนือซึ่งเคยชื่นชอบเพลงแก้วรอพี่ ที่เธอร้องได้ยินดีที่จะส่งเสริมเลยให้ บันทึกเสียงเพลงใหม่อีกครั้งจึงให้เธอ บันทึกเสียงมาอีกครั้งในเพลงรักไม่ อันตรายแก้กับเพลงรักอันตรายของขวัญชัย

เพชรร้อยเอ็ดซึ่งเป็นผลงานการแต่งของครู ก้องกาจกำแหงและมนต์เมืองเหนือได้ตั้ง ชื่อนั้นร้องให้เธอไหมว่าพุ่มพวงดวง จันทร์ในช่วงที่บันทึกเสียงเพลงรักไว้ อันตรายธีระพลแสนสุขได้ปรึกษากับเพื่อน ที่เคยอยู่อุดลตรีศรีนวลสมบัติเจริญด้วย กันคือรุ่งโพธารามเพื่อให้ช่วยโปรโมท รุ่งโพธารามได้ผ่านพีรพลขึ้นไปทาง่าย เนื้อเพื่อพบกับคารมคมคายน่าจะรายการชื่อ ดังแห่งสถานีวิทยุกองทัพภาคที่ 3 และฝาก ให้ช่วยเชียร์พุ่มพวงดวงจักด้วยคารมคมคาย และเพื่อนๆนั้นจากรายการทางภาคเหนือเช่น กินจำปาทองณจากรายการดังทางจังหวัด สุโขทัยและน่าจะรายการสถานีวิทยุหลายแห่ง

ได้นำเพลงแก้วรอพี่และรักไม่อันตรายไป เปิดจนโด่งดังหลังจากกระแสตอบรับจากแฟน เพลงเรื่องแรงขึ้นและแซมเพียงก็อยากเจอ หน้าผู้ร้องคุณคารมคมคายจึงวางแผนให้ พุ่มพวงได้ไปเดินสายพบปากกาแฟนเพลงด้วย การให้ทีก็จะตั้งตนตรีเล็กๆขึ้นโดยคุณ คารมประกาศรับงานทางสถานีวิทยุ รุ่งโพธารามและธีระพลแสนสุขจึงเตรียมวง จากกรุงเทพมอบให้สกาวหงส์เหินควบคุมวง ดนตรีเล็กๆของพุ่มพวงดวงจันทร์ไปเปิดทำ การแสดงครั้งแรกแบบปิด with ที่วัดพญาปัน แดนตำบลพญาแมนอำเภอพิชัยจังหวัดอุตรดิตถ์ การเปิดวงของพุ่มพวงดวงจันทร์ครั้งแรกได้ รับแรงใจจากแฟนเพลงไม่น้อยหลังจากนั้นก็

นำวงตระเวนไปหลายจังหวัดทางภาคเหนือเช่น สุโขทัยพิษณุโลกพุทธะรดิทเชียงราย เชียงใหม่เป็นต้นทุกที่จะทำการแสดงด้วย การปิดวิกเก็บค่าผ่านประตูคนละ 5 บาทคือ 1 เก็บได้ 4 ถึง 5,000 บาทนับว่าประสบความ สำเร็จพอสมควรในระหว่างที่เดินสายอยู่ทาง ภาคเหนือธีระพลแสนสุขความพุ่มพวงดวง จันทร์ลงมากรุงเทพฯเพื่อบันทึกเสียงเพิ่ม เติมหลายเพลงเช่นเพลงความรักเหมือนยาขม แต่งโดยครูป้องกันกำแพงปลุกสาวเหนือ สะอื้นแต่งโดยธีระพลแสนสุขโดยเฉพาะเพลง ความรักเหมือนยาขมถือว่าเป็นเพลงแรกที่ทำ ให้คนทั่วประเทศเริ่มรู้จะจะพุ่งพวงดวง จันทร์ส่วนเพลงอกสาวเหนือสะอื้นนั้นได้

รับรางวัลเสาอากาศทองคำเมื่อปี 2521 ใน การนำดนตรีเดินสายทางภาคเหนือของผู้ พวงจันดำเนินอยู่แค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่า นั้นเนื่องจากประสบปัญหาการขาดทุนซึ่งอาจ จะเกิดจากหลายสาเหตุประกอบกันเช่นตัวพู่ พวงเองเป็นนักร้องใหม่มีผลงานด้านแห่ง เสียงน้อยไม่มีนักร้องที่มีชื่อเสียงร่วม วงดนตรีก็เป็นมนตรีเล็กๆเดินสายได้ไม่นาน คนดูก็เริ่มลดลงทำให้ต้องประสบภาวะขาดทุน ที่รพลจึงตัดสินใจพาพุ่มพวงเดินทางกลับ กรุงเทพฯเพื่อตั้งหลักกันใหม่โดยเช่าห้อง อยู่ที่ซอยวัดดงมูลเหล็กเหมือนเดิมต่อมา แต่ราวปี 2522 หมออารีดาพุ่มพวงดวงจันทร์ และธีรพลเข้าสังกัดบริษัทเสกสรรค์เทพซึ่ง

มีนายห้างประจวบจำปาทองเป็นประธานและคุณ ปรีชาอัศวฤกษ์หนักหรือเสียงงูเป็นกรรมการ ผู้จัดการผ่านไปไม่นานบริษัทก็ลงทุนตั้ง วงดนตรีให้โดยเป็นวงร่วมกับเสรีรุ่งสว่าง เริ่มมีชื่อเสียงกับเพลงทุ่งนางคอยกระจก ส่องใจน้ำและทางเครื่องหมายขันหมากตะวัน ลับฟ้าหัวใจถวายวัดนางบังเงาและอีกหลาย ต่อหลายเพลงแต่ชีวิตของเธอต้องสรุปอีก ครั้งเมื่อหมออารีย์เสียชีวิตในปี 2525 เธอจึงตัดสินใจไปขอความช่วยเหลือจากป้า ตุ่นจำรัสเชื้อสายผู้กว้างขวางแห่งเมือง เพชรบุรีเพื่อให้การสนับสนุนในการตั้งวง อีกครั้งหนึ่งป้าตุ่นก็ตั้งวงให้อีกครั้ง ในปี 2525 แต่มีข้อแม้ว่าให้ร้องเพลงที่

มีเนื้อหาในเชิงฉันชวนให้คนรู้จักจังหวัด เพชรบุรีสักชุดนึงจึงได้มีเพลงตามที่ไป เที่ยวเพชรสาวเพชรบุรีเกิดขึ้นในช่วงนั้น จากการประพันธ์ของครูชลธีธารทองและเพลง สาวเพชรบุรีก็กลายเป็นเพลงที่ในยุคต่อมา นักร้องประกวดชอบนำเอาไปประกวดบนเวทีนะ ครับต่อมาเธอที่มีโอกาสได้ร้องเพลงของ อาจารย์เชิดศักดิ์เปลี่ยนสีในเพลงแฟน พุ่มพวง [เพลง] น่ารักแล้วมาและอีกหลายเพลงปรากฏว่าเพลง แฟนพุ่มพวงดังมากหลังจากนั้นอาจารย์ เชิดศักดิ์เปลี่ยนสีจึงนำเข้าสังกัด บริษัทอโซน่าซึ่งมีคุณชัยยันต์ชูตระกูล หรือคุณเต่าเป็นโรเซอร์บริษัททำให้เธอมี ชื่อเสียงโด่งดังสูงสุดจากงานเพลงของครู

ลพบุรีรัตน์หรือวิเชียรคำเจริญเช่นเพลง ดาวเรืองดาวโรยนัดพบหน้าอำเภอสาวนาสั่ง แฟนและยังมีเพลงคนดังลืมหลังควายของครู ฉลองภู่สว่างดังคู่กะนาต่อมาครูวิเชียรคำ เจริญได้เปลี่ยนรูปแบบและลีลาการร้องหน้า เวทีให้เธอใหม่ในชุดกระแซะเข้ามาซิหาก หน่อยถอยนิดหนูไม่เอาหนูไม่รู้ฮือหล่อจัง และอีกหลายสิบเพลงทำให้ผู้ภูดวงจันทร์ คลองหัวใจแฟนเพลงตลอดมาจนได้รับฉายาว่า ราชินีลูกทุ่งคนที่สองของเมืองไทยหลังจาก ออกจากบริษัทอโซน่าก็ไปอยู่ในสังกัดของ อาจารย์ไพจิตรศุภวารีและดังอีกครั้งกับ เพลงตั๊กแตนผูกโบว์โลกของผึ้งซึ่งเป็นผล งานการแต่งของครูลพบุรีรัตน์เช่นเคยตั้ง

แต่ปี 2526 เป็นต้นมาพุ่มพวงดวงจันทร์ได้ มีโอกาสแสดงภาพยนตร์หลายเรื่องเช่น ติดตามเพลงมนต์รักนักเลงอาจารย์เด๋อเจอ พุ่มพวงนักร้องนักเลงเป็นต้นพุ่มพวงดวง จันทร์เมื่อแยกทางกับธีระพลแสนสุขก็ได้พบ รักใหม่กับใครสอนแสงอนันต์นั้นแสดงเมื่อ ครั้งแสดงภาพยนตร์ร่วมกันเรื่องมนต์รัก นักเพลงในปี 2527 จากนั้นก็ได้แต่งงาน อยู่กินกันจะมีบุตร 1 คนหลังจากออกจาก สังกัดของอาจารย์ไพจิตรพาวรีเธอก็ย้ายไป สังกัดบริษัทท็อปไลน์ไดมอนด์ของในห้างทวี ชัยจริยอิ่มอุดมโดยเธอนำเพลงดังในอดีตมา ร้องใหม่และในปีนั้นสายัณห์สัญญากำลังดัง ๆจากเพลงชุดบัวตูมบัวบานคนมุนีอังกินันท์

ซึ่งเคยเป็นเพื่อนกันมานานก็คิดจะตั้งให้ สายัณห์อีกครั้งและบังเอิญได้เจอกับ พุ่มพวงเธอพูดเลยเปื่อยกับคุณมุนีว่าแม้ ที่น่าจะตั้งวงให้ดูบ้างนะคุณพรุ่งนี้ก็ ดีใจหายโจ๊กลงออกทุนตั้งวงให้ทั้งสาย อาลัยพุ่มพวงและมอบให้คุณอ้อมานิตย์อัง กินันทน์ผู้น้องเป็นผู้จัดการวงโดยในห้าง ทวีชัยรับผิดชอบในการบันทึกเสียงส่วนคุณ มานิตแล้วคุณมุนีพระผิดชอบหรือพี่ตรีเพลง ชุดแรกที่ประเดิมร้องคู่กันระหว่าง สายัณห์สัญญากับพวงก็คือชุดมนต์เสียงเพลง เป็นการนำเอาเพลงร้องคู่ที่เคยโด่งดังใน อดีตมาร้องใหม่เช่นเพลงมนต์เสียงเพลงโฉม นางสัมพันธ์รักนักเลงปากหวานมะนาวไม่มี

น้ำเป็นต้นเพลงชุดนี้ได้รับความนิยมพอสม ควรทำให้ทั้งสายัณห์และพุ่มพวงมีงานรับ เชิญไปปรากฏตัวบนเวทีเดียวกันไว้ครั้งแต่ การร้องเพลงหน้าเวทีของพุ่มพวงในช่วงเวลา นั้นเริ่มมีปัญหากับอาการป่วยทำให้เธอ ร้องเพลงไม่ค่อยไว้ในปลายปี 2534 อาการ ปวดของพุ่มพวงเริ่มหนักขึ้นบางครั้งถึง กับหน้ามืดสุดลงหน้าเวทีบางงานรับไว้แล้ว บอกคือไม่ได้ก็ต้องไปโชว์ตัวเพื่อให้เห็น ว่าตัวมาแต่ว่าร้องเพลงไม่ได้ครั้งสุด ท้ายเธอนามวงศ์ไปแสดงที่หัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ขณะนั่งรับประทานอาหารที่ชายทะเลซึ่งมี คุณมุนีคุณมานิตย์อังกินันทน์สายัณห์ สัญญาไกรสรแสงอนันต์รวมอยู่ด้วยอยู่ๆเธอ

ก็มีอาการวูบเต็มที่ไปจนต้องถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลหัวหินและในคืนนั้นแฟนเพลงที่ ไม่ทราบเหตุการณ์ต่างก็รอชมพุ่มพวงออกมา ร้องเพลงด้วยความหงุดหงิดจนกระทั่งคุณ ไกรสรแสงอนันต์ขึ้นประกาศบนเวทีว่า พุ่มพวงป่วยเข้าโรงพยาบาลแฟนเพลงจึงเข้า ใจหลังจากนั้นคุณไกรสรและกะนะก็พาผู้ภู ดวงจันทร์มารักษาต่อที่กรุงเทพฯจากการ ป่วยครั้งนั้นทำให้พวงดวงจันทร์ไม่ได้ ร้องเพลงอีกเลยเธอต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อ รักษาอาการป่วยอยู่หลายแห่งพุ่มพวงดวง จันทร์ล้มป่วยลงด้วยโรค sle หรือลูปัสที่ เรียกว่าภูมิแพ้ตัวเองตั้งแต่ปี 2533 แต่ เธอเรื่องเข้ารับการรักษาจริงจังเมื่อวัน

ที่ 9 กันยายนปี 2534 หลังจากเดินทางกลับ จากอเมริกาโดยเธอเข้าออกโรงพยาบาลหลาย แห่งทั้งโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์โรงพยาบาล หัวหินโรงพยาบาลตากสินจันทบุรีโรงพยาบาล ศิริราชเป็นต้นครั้งสุดท้ายก่อนที่เธอจะ เสียชีวิตเมื่อเดือนมีนาคมปี 2535 ไกรสร แสงอนันต์พูดก็จะมีได้พาเธอเข้ารักษาตัว ที่โรงพยาบาลศิริราชโดยพักรักษาตัวอยู่ ที่ตึก 84 ชั้น 7 ซึ่งขณะนั้นอาการเริ่ม หนักแล้วไม่มีวี่แววว่าจะหายพุ่มพวงเสีย เงินไปกับการรักษาตัวมากมายแต่อากาศก็ไม่ ดีขึ้นนำ 3 ร่างกายกลับทรุดลงเรื่อยๆ เพื่อจะตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลไปพักอยู่ กับน้องสาวที่บ้านแถวพุทธมณฑลสาย 2 เพื่อ

หาวิธีรักษาด้านอื่นๆดูบ้างจนเธอไปเสีย ชีวิตลงที่จังหวัดพิษณุโลกเมื่อวันที่ 13 มิถุนายนปี 2535 พุ่มพวงพร้อมด้วยคุณแม่ และน้องสาวคือคุณสลักอิฐดวงจันทร์ได้เดิน ทางออกจากบ้านแถวพุทธมณฑลสาย 2 ไปกล่าว ไหว้พระพุทธชินราชที่จังหวัดพิษณุโลก เนื่องจากเธอฝันเห็นพระพุทธชินราชเธอเดิน ทางไปถึงจังหวัดพิษณุโลกเวลาประมาณ 11:00 เมื่อไปถึงวัดพระพุทธชินราชเธอมีอาการ อ่อนเพลียมากนางจรัลผู้เป็นแม่เข้าไป ประคองให้ไหว้พระใช้เวลาประมาณครึ่ง ชั่วโมงก็ประคองกระบอกมาแล้วเข้าไปนั่งใน เบาะหลังของรถนำรังนกที่ซื้อมาจากจะหอพัก ผ่อนให้เธอกินได้ 2 ช้อนก็หยุดสักครู่

หนึ่งก็บอกว่ารู้สึกเจ็บปวดหน้าอกแบบแซ่บ ๆหายใจติดขัดนางจรัลจึงนำออกซิเจนที่ เตรียมมาเพื่อช่วยหายใจแต่อาการก็ไม่ดี ขึ้นจึงนำส่งโรงพยาบาลพระพุทธชินราชเมื่อ เวลา 13:00 แพทย์นำเข้าห้องฉุกเฉินผู้ ช่วยชีวิตแต่การของเธอหนักมากจนเวลา 21:00 เธอก็เสียชีวิตลงด้วยโรคภูมิแพ้ตัวเอง หรือโรค sle แย่นำศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลที่ วัดมกุฏกษัตริยารามศาลา 10 ตั้งแต่วันที่ 14 ถึง 22 มิถุนายนปี 2535 รวม 9 คืนและ มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมปี 2535 วงการเพลงลูกทุ่งไทยได้ สูญเสียนักร้องลูกทุ่งหญิงที่ได้ฉายาว่า ราชินีลูกทุ่งหญิงคนที่สองของเมืองไทยนาม

พุ่มพวงดวงจันทร์ไปอย่างไม่มีวันรักท่าม กลางความรักและอาลัยของแฟนเพลงทั่วประเทศ ในวัยเพียง 31 ปีเท่านั้นวันที่ 13 มิถุนายนของทุกปีมีวงการลูกทุ่งและองค์กร ต่างๆจะมีการจัดงานเพื่อรำลึกถึงพุ่มพวง ดวงจันทร์ที่วัดทับกระดานจังหวัด สุพรรณบุรีแม่วันนี้ไม่มีดวงจันทร์แต่ดวง จันทร์ยังอยู่ในดวงใจของแฟนเพลงตลอดไปลง ชื่อสัมพันธ์พัทลุงพอดิฉันขอขอบคุณ อาจารย์สัมพันธ์พัทลุงที่เอื้อเฟื้อข้อ มูลในคลิปนี้ให้เรานำมาเล่าขานสืบต่อ ตำนานตัวเองขอบคุณมากครับ

Cr:https://youtu.be/jpDYkfXQyUo

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *