สุดอาลัย 😭 ชายธง ทรงพล ตำนานเพลง ปูไข่ไก่หลง เสียชีวิตแล้ว วันนี้

(4073) สุดอาลัย 😭 ชายธง ทรงพล ตำนานเพลง ปูไข่ไก่หลง เสียชีวิตแล้ว วันนี้

[เพลง] สุดอาลัยชายธงทรงพลตำนานเพลงปูไข่ไก่หลง เสียชีวิตแล้ววันนี้ขอแสดงความเสียใจ อย่างสุดซึ้งต่อการจากไปอย่างกะทันหันของ ชายธงทรงพลหรือพ่ออรัน สุทธิสุนทรหน้าไม่ทันสมัยผู้หญิงหน้าเงิน ช่วงเช้าวันนี้คือวันที่ 13 กุมภาพันธ์ปี 2568 ชายธงทรงพลในวัย 76 ย่าง 77 ปีได้ ประสบอุบัติเหตุขี่รถจักรยานยนต์แล้วโดน ชนโดยคุณสุทธิชัยสุทธิสุวรรณ พ่อถึงมือหมอแล้วและได้เช็คอินที่ตึก อุบัติเหตุและฉุกเฉินโรงพยาบาลสิงห์บุรี เรื่องน่าเศร้าก็คือเมื่อเวลาผ่านมาอีก ราวๆ 2 ชั่วโมงคุณสุธิชัยก็โพสต์ว่าจาก กันไกลเลยนะพ่อรอบนี้แล้วผมต้องทำยังไง

พร้อมทั้งแทกไปที่ Facebook ของพ่อชายธง ทรงพลด้วยทีมงานเราขอแสดงความเสียใจและ ร่วมไว้อาลัยต่อการจากไปของอาชายธงทรงพล มาณโอกาสนี้ด้วยนะครับชายธงทรงพลจากไป อย่างสงบในวัย 76 ปีเมื่อเวลาใกล้เที่ยง ของวันที่ 13 กุมภาพันธ์ปี 2568 ที่โรง พยาบาลสิงห์บุรีเนื่องจากประสบอุบัติเหตุ อย่างรุนแรงจนหมอไม่อาจยื้อชีวิตไว้ได้ ด้าน Facebook บุญสงคัชเกร็งหรืออู๊ดคม ชัดลึกผู้สื่อข่าวแถวหน้าในวงการลูกทุ่ง ได้โพสต์ตัวอย่างคลิปที่ได้สัมภาษณ์ชายธง ทรงพลเมื่อไม่นานมานี้พร้อมแจ้งว่า สัมภาษณ์สุดท้ายที่ได้คุยกับอาชายธงทรงพล ขอให้อาเดินทางสู่ภพภูมิที่สวยงามครับ

สัมภาษณ์เทปฉบับเต็มนี้ผมจะนำมาเปิดทาง ช่องสายด่วนลูกทุ่งอีกครั้งครับสำหรับ กำหนดการสวดพระอภิธรรมและชาพนกิจศพนาย อรันสุทธิสุนทรพลจะมีขึ้นที่วัดยวดตำบล ต้นโพธิ์อำเภอเมืองสิงห์บุรีจังหวัด สิงห์บุรีเริ่มจากวันนี้คือวันที่ 13 กุมภาพันธ์เวลา 15:30 นมีกำหนดรถน้ำศพ เวลา 20:00 นสวดพระอภิธรรมและจะมีพิธีสวด พระอภิธรรมจากวันที่ 14 ถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ปี 2568 เวลา 20:00 นและจะมี พิธีชาพนกิจในวันที่ 18 กุมภาพันธ์ปี 2568 เวลา 16:00 นที่วัดยวดตำบลต้นโพธิ์อำเภอ เมืองสิงห์บุรีจังหวัดสิงห์บุรีขอเชิญคน ในวงการลูกทุ่งและแฟนเพลงที่รักและอาลัย

ชายธงทรงพลไปร่วมไว้อาลัยส่งทางท่านกัน เยอะๆนะครับชายธงทรงพลเดิมมีชื่อว่านาย สุทธิสุขเกิดวันที่ 19 พฤษภาคมปี 2491 ที่ตำบลบางมันอำเภอเมืองจังหวัดสิงห์บุรี บิดาชื่อนายอรุณมารดาชื่อนางสำเนียง สุทธิสุนทรวงด้วยเด็กชายอรันสุทธิสุวรรณ แตรวงนั้นเขาจึงได้ซึมซับเสียงเพลงเจริญ รอยตามคุณพ่ออยู่หลายปีจนกระทั่งท่านเสีย ชีวิตจากการที่ได้เห็นหนุ่มอันชอบร้อง เพลงและร้องเพลงได้น่าฟังก็มีชาวบ้านแนะ แนะนำเขาว่าในเมื่อเขาชอบร้องเพลงแล้ว ทำไมไม่ลองเข้ากรุงเทพฯไปสมัครเป็นนัก ร้องกับเขาดูหนุ่มอารันในวัย 17 ปีจึง มุ่งหน้าเข้ากรุงเทพฯตอนนั้นบงดนตรี

ศักดิ์โกศลมีการประกวดร้องเพลงที่ กรุงเทพฯที่ซอยไวสุวรรณแถวๆบางโพธิ์เขา จึงไปสมัครดูโดยเสียค่าสมัคร 10 บาทหวัง ว่าจะได้เป็นนักร้องแต่ระยะแรกๆเขายังไม่ ชำนาญเรื่องร้องเพลงมากนักทางวงจึงรับเขา ไว้ในตำแหน่งคอนวอยคอยขนเครื่องดนตรีและ ให้เต้นหางเครื่องไปก่อนเขาทำหน้าที่นี้ อยู่หลายเดือนจนชนะใจนักดนตรีและเจ้าของ วงซึ่งเมื่อได้ทราบว่าหนุ่มอารันชอบร้อง เพลงของชายเมืองสิงห์ทางวงก็เลยให้เขา ร้องเพลงชายเมืองสิงหหน้าเวทีด้วยแต่ยัง คงให้ทำหน้าที่เต้นหางเครื่องและแบกของ ต่อไปตามเดิมตอนนั้นเขาได้ค่าตัว 10-20 บาทหัวหน้าวงตั้งชื่อนักร้องให้เขาว่าธง

เทวราชเขาได้บันทึกเสียงเพลงแรกในชีวิต คือเพลงแล้งคอยฝนทนคอยรักหน้าแล้งคอยฝน นั้นยังคนคอยได้แต่คอยน้ำใจแล้วยน้ำใจไม่ มีแล้วยน้ำใจไม่มีเพลงนี้ยังไม่เป็นที่ รู้จักสำหรับแฟนเพลงนักแต่ก็ทำให้เขาดีใจ ที่ได้ร้องเพลงบันทึกเสียงต่อมาดนตรี ศักดิ์โกศลได้ยุบตัวลงหนุ่มอรันหรือธง เทวราชจึงร่อนเร่พเนจรไปสมัครอยู่กับวง ดนตรีต่างๆและได้หัดเล่นตลกตามวงดนตรีลูก ทุ่งหลายวงเช่นเล่นตลกกับวงศีสละทองธารา วงยงยุทธเชี่ยวชาญชัยจนสุดท้ายได้ไปอยู่ กับวดนตรีเทวรขวัญบ้านนาซึ่งเขาได้เล่น ตลกกับกลิ่นดอกพิกุลหรือเดอดอกสะเดาใน เวลาต่อมาและมีตลกเหียวฟ้ากับดอนจมูกบาน

ด้วยโดยธงเทวราชได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อธง เมืองสิงห์ในการเล่นตลกต่อมาเขาได้ยิน ข่าวว่ามีการประกวดร้องเพลงในรายการคนดัง พาเลสทางช่อง 3 ซึ่งมียิ่งยงเสด็จญาติ เป็นผู้ดำเนินรายการมีครูมงคลอมาตยกุลครู สง่าอารัมภีรครูพยงค์มุกดาเป็นกรรมการตัด สินซึ่งเพื่อนๆของธงเมืองสิงห์ได้คว้า รางวัลจากรายการนี้ในเงาเสียงของนักร้อง ดังเช่นพนมนพพรรุ่งเพชรแหลมสิงห์มาแล้ว เมื่อถึงคิวที่มีการประกวดเงาเสียงชาย เมืองสิงห์เพื่อนๆจึงมาบอกให้เขาไปสมัคร ปรากฏว่ามีนักร้องเข้าสมัคร 600 กว่าคน แล้วคัดเลือกให้เหลือเพียง 4 คนหนุ่มธง ใช้เพลงจ้ำม่ำของชายเมืองสิงห์เข้าประกวด

และคว้ารางวัลชนะเลิศมาครองได้สำเร็จเขา จึงกลายเป็นนักร้องเงาเสียงของชายเมือง สิงห์นับตั้งแต่นั้นมาเขากลับมาเล่นตลก ต่ออยู่พักนึงจากนั้นเพื่อนคนหนึ่งที่เคย อยู่ในวงดนตรีเทวันขวัญบ้านนาด้วยกันได้ ชวนเขาไปอยู่วงดนตรีซึ่งตั้งขึ้นใหม่ด้วย เพื่อนคนนี้ชื่อมานะบ้านไทรน้อยซึ่งต่อมา ครูฉลองผู้สว่างได้ตั้งชื่อให้เขาใหม่ เป็นจีรพันธ์วีรพงษ์ซึ่งยามนั้นได้เข้าไป เสียบแทนรพินทรภูไทยและมีการตั้งวงดนตรี ให้เขาใหม่ธงเมืองสิงห์จึงได้ทั้งร้อง เพลงและเล่นตลกอยู่กับวงดนตรีจิรพันธ์ วีรพงษ์ตอนนั้นเขามีอายุราวๆ 25-26 ปีและ ได้รับความเมตตาได้รางวัลน้ำใจจากแฟนเพลง

หน้าเวทีอย่างล้นหลามเวลาเล่นตลกและร้อง เพลงจนครูฉลองผู้สว่างมองเห็นแววว่าหน่วย ก้านของเขาใช้ได้จึงบอกกับเขาว่าจะแต่ง เพลงให้เขาร้องบันทึกเสียงจากนั้นไม่นาน นักครูฉลองผู้สว่างก็เขียนเพลงผู้หญิง หน้าเงินให้เขาร้องเป็นเพลงแรกตามมาด้วย เพลงหน้าไม่ทันสมัยโดยบันทึกเสียงทีละ เพลงแต่เพลงแรกที่บันทึกไว้เก็บแผ่นไว้ ก่อนเพราะยังไม่มั่นใจในฝีมือการร้องของ เขาเมื่ออัดเพลงที่ 2 เสร็จก็ปล่อยออกมา พร้อมๆกันในตอนนี้เองที่ครูฉลองผู้สว่าง ตั้งชื่อนักร้องให้เขาใหม่ว่าชายธงทรงพล ปรากฏว่า 2 เพลงแรกในนามชายธงทรงพลทำ คะแนนนิยมให้เขาได้ดีระดับหนึ่งถือว่า

เป็นเพลงที่แฟนเป็นเพลงรู้จักแม้ไม่ดัง เปรี้ยงป้างแต่ก็เป็นเพลงที่ได้รับความ นิยมนั่นก็คือเพลงผู้หญิงหน้าเงินสิทางหง เเกลียดหญิงหน้าเงินแท้ๆและเพลงหน่าไม่ ทันสมัยซึ่งเพลงนี้ชายธงทรงพลชอบเป็น พิเศษหนคนรักเก่ามันเก่าจนขึ้นสนิชื่อ เสียงของชายธธงทรงพลมาโด่งดังสุดสุดใน เพลงที่ 3 ที่ครูฉลองผู้สว่างแต่งให้นั่น ก็คือเพลงปูไข่ไก่หลงแมู่่ใลง แล้วมีใขเต็ม ท้องว่ากันว่าเพลงปูไข่ไก่หลงนี้ตอนแรกๆ ยังไม่ดังมากนักแต่ต่อมามีการเปิดบ่อยๆ ตามตู้เพลงบ้างนักร้องวงเล่าก็ชอบเอาเพลง นี้ไปร้องกันแพร่หลายเพลงปูไข่ไก่หลงจึง กลายเป็นเพลงดังทะลุทะลวงที่สุดในเวลาต่อ

มาของชายธงทรงพลและเป็นเพลงที่ในยุคต่อๆ มานักร้องอื่นๆก็นำมาขับร้องใหม่กันเยอะ มากแถมท้ายด้วยอีกหลายปีต่อมาหลังจากที่ บันทึกเสียงไว้เพลงปูไข่ไก่หลงก็ได้รับ รางวัลกึ่งศตวรรษลูกทุ่งไทยในปี 2534 อีก ด้วยช่วงที่ชื่อเสียงของชายธงทรงพลกำลัง ได้รับความนิยมอย่างสูงนั้นเขาได้เดินสาย ร้องเพลงกับองค์ดนตรีจิรพันธ์วีรพงษ์อยู่ หลายปีเขาเผยว่าตอนนั้นไม่คิดอะไรมากได้ กินได้ใช้ไปวันๆสนุกกับการเดินทางไม่เคย คิดว่าความดังเป็นอย่างไรแต่พอตอนหลัง เพิ่งมาคิดได้ว่าถ้าดังแล้วความรวยก็จะ ตามมาแต่พอคิดได้ก็ไม่ทันเสียแล้วเขาอยู่ กับงดนตรีจิรพันธ์วีรพงษ์ได้พักหนึ่งก็

ย้ายมาอยู่กับบงดนตรีครูฉลองผู้สว่างซึ่ง มีนักร้องในวงไม่กี่คนแต่ก็ไปไม่ถึงดวง ดาวต้องเลิกรากันไปจากนั้นเขาก็มาตั้งวง ดนตรีเป็นของตัวเองแต่เป็นช่วงเวลาที่วง การลูกทุ่งอยู่ในช่วงขาลงชายธงจึงจำเป็น ต้องหยุดวงแล้วหันไปเล่นตลกตามคาเฟ่เขา เล่าย้อนหลังว่าตอนนั้นไม่รู้จะไปทางไหน เลยหันไปเล่นตลกตามคาเฟ่นับว่าประสบการณ์ ที่ได้มานั้นมีคุณค่ามากเหมือนนกมีขนคนมี พวกมีเพื่อนเยอะไปไหนก็เหมือนนกขมิ้นค่ำ ไหนนอนนั่นอยากจะบอกไปถึงนักร้องรุ่นน้อง ๆว่าถ้าเรามีโอกาสในเส้นทางนี้ต้องตั้ง ใจจทำให้ดีต้องรู้จักเก็บหอมรอมลิบและ อย่าลืมตัวรู้จักรุ่นพี่รุ่นน้องรู้จัก

อ่อนน้อมถ่อมตนดูเหมือนว่าสิ่งที่อดีตลูก ทุ่งดังนึกเสียดาย้อนหลังก็คือช่วงที่เขา โด่งดังเต็มที่นั้นเขาไม่ได้เก็บหอมรอม ลิฟไว้ใช้ยามจำเป็นเท่าที่ควรกว่าจะนึก ขึ้นได้ก็สายไปพอสมควรปรากฏว่าเขาต้องเจอ เหตุการณ์เฉียดตายหลายครั้งที่ส่งผลให้ เกิดความจำเป็นต้องใช้เงินทองในการรักษา ไล่มาตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายนปี 2528 ที่เขาประสบอุบัติเหตุดดคว่ำพร้อมๆกับดำ แดนสุพรรณหนุ่มเมืองไพรซึ่งคนแรกเสีย ชีวิตคาที่หนุ่มเมืองไพรได้รับบาดเจ็บ หนักกลายเป็นเจ้าชายนิทราและเสียชีวิตใน อีกหลายปีต่อมาส่วนเขาชายธงทรงพลบาดเจ็บ สาหัสต้องรักษาตัวอยู่นานกว่าจะผ่านพ้นมา

ได้เขาคิดว่ามรสุมชีวิตคงหมดไปแล้วแต่ว่า ในปี 2531 เขาก็เกิดล้มป่วยที่บ้าน สิงห์บุรีหมอบอกว่าเขาเป็นเส้นเลือดโปง ที่หลอดอาหารแล้วก็เริ่มมีอาการตับแข็ง ซึ่งมีสาเหตุมาจากช่วงวัยหนุ่มจากการของ เขาเขาเป็นนักดื่มจยยงงรีแอลกอฮอล์จึงตาม มารังควานตอนนั้นโรงพยาบาลที่สิงห์บุรี ผ่าตัดไม่ได้เลยส่งตัวเขาไปรักษาต่อที่ โรงพยาบาลราชวิถีชายธงทรงพลจึงได้ผ่าตัด ที่โรงพยาบาลนี้ถึง 3 ครั้งร่างกายเขาก็ แย่มาเรื่อยจนมาฟื้นตัวในปี 2533 เมื่อ ร่างกายดีขึ้นชายธงทรงพลก็กลับมาร้องเพลง อีกโดยมีการนำเพลงเก่ามาร้องใหม่ในปี 2534 ที่เพลงปูไขไก่หลงได้รับรางวัลกึ่งสตวัด

ลูกทุ่งไทยทำให้เขามีงานร้องเพลงต่อมาอีก หลายปีอย่างไรก็ตามเหมือนชะตากรรมของเขา มีด่านทดสอบความกระดูกเหล็กอยู่ไม่ขาดอีก ราวๆ 20 ปีต่อมาก็มีรายงานข่าวเมื่อวัน ที่ 3 กรกฎาคมปี 2555 ว่าชายธงทรงพลเจ้า ของบทเพลงปูไข่ไก่หลงผู้หญิงหน้าเงินล้ม ป่วยด้วยโรคเส้นเลือดในสมองเข้าโรงพยาบาล เตรียมผ่าตัดสาเหตุของเรื่องนี้ชายธง ทรงพลได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวในเวลาต่อมา ว่าหลังจากเกิดอุบัติเหตุรถคว่ำที่ จังหวัดชัยภูมิเมื่อ 20 ปีที่แล้วแล้วก็ ยังมีอาการมึนๆอยู่และเมื่อสัปดาห์ที่ ผ่านมาขณะที่ตนกำลังเดินออกกำลังกายอยู่ ในบริเวณบ้านก็เกิดอาการหน้ามืดล้มหัวฟาด

กับกิ่งมะม่วงหลังจากนั้นก็มีอาการมือ เท้าอ่อนแรงตาเริ่มพร่ามัวพูดลำบากเวียน ศีรษะและการทรงตัวไม่ดีจึงไปพบแพทย์ที่ โรงพยาบาลสิงห์บุรีแพทย์เจ้าของไข้ได้นำ เข้าเครื่องสแกนสมองพบว่าเส้นเลือดไฟใน สมองมีเลือดซึมออกมาจึงบอกให้เขารีบรักษา ไม่เช่นนั้นอาจเป็นอัมพฤษอัมพาดตลอดชีวิต ต่อมาหลังจากพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านลูก สาวและภรรยาของเขาได้นำตัวชายธงทรงพลเข้า รับการรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาล อานันทมหิดลจังหวัดลพบุรีตามคำแนะนำของ แพทย์โรงพยาบาลสิงห์บุรีเนื่องจากมีความ พร้อมด้านเครื่องมือและบุคลากรทางการ แพทย์มากกว่าชายธงทรงพลได้รับการผ่าตัดจน

อาการหายดีหลังจากแคล้วคลาดจากโรคภัยด้วย การผ่าตัดมาได้เขาก็ยังเจอบททดสอบความ ทรหดอีกครั้งจนได้ในอีก 9 ปีต่อมาคือใน เดือนกรกฎาคมปี 2564 ชายธงทรงพลในวัย 73 ปีได้เกิดอากการวูกขณะขับรถจักรยานยนต์ทำ ให้ประสานงากับรถมอเตอร์ไซค์ที่ขับสวนมา อย่างจังจนกระดูกแตกและตอนนั้นหมอบอกว่า อาจต้องตัดนิ้วก้อยทิ้งเพราะกลัวติดเชื้อ เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคมปี 2564 ทีมข่าว สายด่วนลูกทุ่งประจำจังหวัดสิงห์บุรีได้ รายงานข่าวว่าชายธงทรงพลลูกทุ่งชื่อดัง เจ้าของเพลงปูไข่ไก่หลงได้ประสบ อุบัติเหตุถูกรถจักรยานยนต์ชนจนได้รับบาด เจ็บบริเวณขาขวาต้องเย็บกว่า 38 เข็มมือ

ขวาบริเวณนิ้วนางนิ้วก้อยกระดูกแตกต่อมา ชายธงทรงพลได้ให้สัมภาษณ์กับสายด่วนลูก ทุ่งขณะรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล สิงห์บุรีว่าผมขี่มอเตอร์ไซค์ออกจากซอย ข้างบ้านจะไปเอาของมาทำรังไก่อยู่ๆเกิด อาการวู่ไปรถเลเซไปชนกับมอเตอร์ไซค์ที่ ขี่สวนมาจนบาดเจ็บสาหัสขาขวาเย็บตรงส้น เท้า 38 เข็มส่วนมือขวาที่นิ้วก้อยนิ้ว นางกระดูกแหลกหายไปหมอบอกว่าอาจต้องตัด เพราะถ้าเอาไว้กลัวจะติดเชื้อต้องตัดนิ้ว ก้อยทิ้งแต่ก็ยังจับไมค์ร้องเพลงได้ผม เป็นโรควูเพราะกินอาหารน้อยพักผ่อนน้อย โรคในตัวมันเยอะตับแข็งมีความดันไขมัน ด้วยก่อนหน้านี้ไปงานลำวงพอมีโควิดก็ไม่

ได้ไปก็เลี้ยงไก่อยู่บ้านไม่มีรายได้อะไร มากนักอย่างไรก็ดีแม้อุบัติเหตุครั้งนี้ จะหนักหนาเอาการแต่ลูกทุ่งดังชายธงทรงพล พักฟื้นอยู่พักใหญ่ก็ผ่านมาได้ด้วยดีจน กระทั่งมาประสบอุบัติเหตุโดนรถชนขณะขี่ จักรยานเมื่อเช้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ปี 2568 และเสียชีวิตลงหลังจากถูกนำตัวส่ง โรงพยาบาลสิงห์บุรีขอให้ดวงวิญญาณของท่าน ไปสู่ภพภูมิที่ประเสริฐด้วยเทอญ

Cr:https://youtu.be/mbrinDtr2gg